ขึ้นชื่อว่าการเงินและการลงทุน หลายคนไม่กล้าลงสู่สนามนี้เนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องยาก ต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคมากมาย แต่หลายคนอีกเช่นกันที่มองการณ์ไกลแล้วพบว่า การเป็นนักลงทุนคือสิ่งที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จทางการเงินในระยะยาว เมื่อเข้าสู่เส้นทางการลงทุนแล้ว แม้จะศึกษาความรู้สะสมเอาไว้มากมาย การลงทุนของจริงก็ไม่ได้เป็นไปตามทฤษฎีเสียทั้งหมด ต้องพบเจอกับอุปสรรคบ้าง ผ่านความล้มเหลวมาบ้าง กว่าจะมีความเชี่ยวชาญและประสบความสำเร็จกับการลงทุนในที่สุด

5 ข้อผิดพลาดที่นักลงทุนต้องเคยทำมาก่อน เพื่อเรียนรู้และลงทุนได้ดียิ่งขึ้น

ถึงแม้ว่าการลงทุนต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว แต่ประสบการณ์ที่นักลงทุนทุกคนมักต้องพบเจอ จะมีรูปแบบหลักที่เหมือนกันคือ เรื่องการขาดทุน หรือการคิดตัดสินใจผิดพลาด ผิดจังหวะผิดเวลา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเป็นเพราะศึกษามาไม่ดีพอ หรือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของตัวเองอย่างเดียว โลกของการเงินการลงทุนมีปัจจัยมากมายที่ทำให้เกิดความซับซ้อน ทักษะต่าง ๆ ในการลงทุนจะเกิดขึ้นได้จึงต้องผ่านความผิดพลาดมาก่อนนั่นเอง ต่อไปนี้คือ 5 ข้อที่จะเป็นบทเรียนหลักสำหรับนักลงทุนทุกคน

1. ขาดทุนเพราะไม่รู้จักสินทรัพย์ที่ตัวเองลงทุนดีพอ

นักลงทุนทุกคนต้องเคยผ่านการขาดทุนมาทั้งนั้น ซึ่งเป็นธรรมดาของการลงทุนที่กำไรย่อมควบคู่มากับการขาดทุน เพียงแต่จะมีโอกาสขาดทุนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้หากไม่รู้จักสินทรัพย์ที่ลงทุนดีพอ ถึงแม้จะมีการศึกษาสินทรัพย์ที่ตนเองจะลงทุนอย่างดีแล้วก็ตามในทางทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติเมื่อลงทุนในสนามจริงก็มีโอกาสขาดทุนได้เพราะประสบการณ์ยังไม่เพียงพอ หรือลืมนึกถึงปัจจัยทางอ้อมที่เกี่ยวข้องกับตลาดสินทรัพย์ที่ลงทุนไป การขาดทุนเพราะรู้จักสินทรัพย์ที่ตัวเองลงทุนไม่มากพอ จึงเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติ หากมีแผนรองรับที่ดีก็จะทำให้มีแนวทางในการศึกษามากขึ้น และมีทิศทางการลงทุนที่ดีขึ้น

2. ลงทุนโดยที่ไม่มีกระแสเงินสดรองรับ

ในช่วงแรกเริ่ม นักลงทุนอาจเน้นลงทุนให้มากไว้ก่อน เมื่อมีเงินสดเข้ามาก็จะหาโอกาสลงทุนเพิ่มทันที เพราะคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุน โดยไม่เผื่อกระแสเงินสดสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน หรือไม่ได้ประเมินเรื่องความเสี่ยงในการขาดทุนเอาไว้ หากสินทรัพย์อยู่ในช่วงขาลงก็อาจจะตัดสินใจขายไม่ได้ หรือไม่รู้จะจัดการกับสินทรัพย์ที่ตนเองถืออยู่อย่างไรดี เพราะไม่มีกระแสเงินสดรองรับสำหรับการขาดทุนนั่นเอง หากผ่านการขาดทุนโดยไม่มีกระแสเงินสดสำรองมาแล้ว ก็จะทำให้มีความใจเย็นและรอบคอบมากขึ้น 

3. เชื่อการวิเคราะห์ของคนอื่นมากเกินไป

เชื่อว่าแรงบันดาลใจของนักลงทุนหลายคนคือ ผู้ลงทุนที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว รวมถึงผู้เชี่ยวชาญทางการเงินต่าง ๆ ที่ทำให้อยากเข้าสู่โลกของการลงทุน โดยมีจุดมุ่งหมายคืออิสรภาพทางการเงิน การฟังสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์มาจึงเป็นแนวทางนำร่องที่ดีในช่วงแรกเริ่ม แต่หากไม่กล้าตัดสินใจเอง แล้วเชื่อการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญเพียงอย่างเดียว หรือแม้แต่ทำตามคำแนะนำของเพื่อนที่ลงทุนด้วยกันโดยไม่พิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ให้รอบคอบ ก็จะทำให้ตัดสินใจพลาดได้ ดังนั้นการลงทุนต้องอาศัยการวิเคราะห์ด้วยตัวเอง แม้ขาดทุนเพราะเชื่อคนอื่นในระยะเริ่มต้นก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าผ่านมาได้แล้วก็จะจับทิศทางของสินทรัพย์ได้ดีขึ้นด้วยตัวเอง แล้วดูการวิเคราะห์ของนักลงทุนคนอื่น เพื่อเป็นแนวทางประกอบการวิเคราะห์ของตัวเองเท่านั้น

4. ลงทุนตลอดเวลา มีความถี่ในการลงทุนมากเกินไป

ข้อนี้จะคล้าย ๆ กับข้อ 2 คือ ลงทุนตลอดเวลาที่มีโอกาส เพราะกลัวเสียโอกาสในการทำกำไรไป เพียงแต่มีการสำรองกระแสเงินสดเอาไว้บ้าง ไม่ได้นำเงินทุนที่ตัวเองมีมาลงทุนทั้งหมด หากมีโอกาสก็จะซื้อขายสินทรัพย์ผ่านแพลตฟอร์มการลงทุนทุกวัน โดยไม่พิจารณาว่า ช่วงเวลานั้นเหมาะสมสำหรับการลงทุนหรือไม่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะพบว่า ไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อขายสินทรัพย์ทุกวัน ประสบการณ์จะสอนให้รู้จังหวะเวลาที่ควรลงทุนไปเอง

5. ไม่ยอมขาดทุนเพื่อรักษาเงินต้นเอาไว้

อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ข้อแรกว่า นักลงทุนทุกคนต้องผ่านการขาดทุนมาก่อนเสมอ แต่หลายคนก็กลัวการขาดทุน จึงไม่ยอมขายสินทรัพย์เพื่อรักษาเงินต้นที่ใช้ลงทุนไป จนเมื่อเวลาผ่านไปก็ทำให้เสียเงินต้นทั้งหมด การตัดสินใจขายสินทรัพย์ในขณะที่ขาดทุนแล้วเสียเงินต้นเพียงบางส่วนตามที่ตนเองรับได้ จึงดีกว่าการถือไปเรื่อย ๆ โดยไม่ยอมขายเลย จนเลยจุดที่ควรขายได้มาแล้ว แต่สิ่งนี้จะทำให้มองเห็นว่า ระดับการขาดทุนที่รับได้สำหรับตัวเองคือเท่าไร และควรขายเมื่อไรจึงจะดี

เมื่อนักลงทุนผ่านบทเรียนทุกข้อดังกล่าวแล้ว เชื่อว่าจะทำให้เกิดทักษะในการลงทุนที่ดีมากขึ้น อย่างน้อยที่สุดก็มีความรอบคอบในการวางแผนมากยิ่งขึ้น ใช้ประสบการณ์บวกกับการพัฒนาทักษะการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และติดตามข่าวสารเศรษฐกิจอย่างสม่ำเสมอ ทำให้มีทักษะการตัดสินใจที่แม่นยำ เฉียบแหลมมากยิ่งขึ้น หากมีแผนการเงินและการลงทุนที่ดี ก็ทำให้ประสบความสำเร็จในการลงทุน ทั้งระยะสั้นและระยะยาวในที่สุด